Element of adidas Samba   จากรากฐานแห่งฟุตบอลสู่โมเดลอมตะตลอดกาล

Element of adidas Samba จากรากฐานแห่งฟุตบอลสู่โมเดลอมตะตลอดกาล

“หากไม่มี Samba ก็อาจจะไม่มี Adidas แบบทุกวันนี้” คงเป็นคำกล่าวที่ไม่เกินจริงนัก เพราะตลอด 70 กว่าปีที่ผ่านมา Samba โมเดลในตำนานของ Adidas ได้ผ่านการวิวัฒนาการจากรองเท้าฟุตบอลที่มีดีไซน์มาเพื่อเล่นในพื้นที่หนาวเย็น จนกลายมาเป็นไอคอนของประวัติศาสตร์ ที่กลายเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมมากมายและพา Adidas ขึ้นมาเป็นแบรนด์ระดับโลก วันนี้ Carnival Element of Sneakers จะพาทุกคนไปสำรวจเส้นทางและมิติต่างๆ ของหนึ่งในรองเท้าที่ทรงอิทธิพลที่สุดตลอดกาล! 

 

  ตำนานของ Samba เริ่มต้นมาจากรากฐานของวงการกีฬา ย้อนเวลากลับไปในปี 1949 เราได้เห็นเวอร์ชั่นแรกของรองเท้าที่ไม่เหมือนกับที่คุ้นเคยกันในปัจจุบันเท่าไหร่นัก ด้วยดีไซน์ที่เป็นทรง Mid-Top ที่ออกแบบโดย Adi Dassler (ผู้ก่อตั้งและมอบชื่อให้กับแบรนด์) ด้วยวิสัยทัศน์ที่เฉียบขาด เขามองเห็นถึงปัญหาของวงการฟุตบอลในยุคนั้น ที่ขาดแคลนรองเท้าที่สามารถยึดเกาะพื้นผิวในสภาพอากาศที่หนาวเย็นได้ดี โดยเฉพาะในยุโรปที่เป็นบ้านเกิดของแบรนด์ Adidas ทำให้เกิดดีไซน์แรกของ Samba ที่ได้เข้ามาช่วยเหลือนักกีฬา ด้วยวัสดุหนังจิงโจ้อันแสนทนทานในบริเวณอัปเปอร์  ผสานความสามารถในการยึดเกาะที่ดีเยี่ยมของพื้น Gum Sole ทำให้นักกีฬาสามารถเล่นบนพื้นผิวที่หนาวเหน็บได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจมากขึ้น

 ทว่าที่มาของชื่อ Samba นั้นไม่ได้มาจากการทนทานสภาพอากาศที่หนาวเหน็บในเยอรมันแต่อย่างใด เพราะเจ้า Samba ถูกเปิดตัวครั้งแรกที่งานที่ใหญ่ที่สุดในรอบปีของวงการฟุตบอลอย่าง FIFA World Cup ปี 1950 ที่ประเทศบราซิล และแม้ว่าดีไซน์ของ Samba จะออกแบบมาสำหรับสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ และในช่วงเดือนมิถุนายน - กรกฏาคมที่จัดบอลโลกปีนั้นจะเป็นช่วงหน้าหนาวพอดีแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสภาพอากาศของบราซิลก็ยังไม่ได้หนาวพอ และไม่ค่อยตอบโจทย์กับรองเท้าที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันความหนาว

 ด้วยความที่เป็นอีเว้นท์สำคัญแห่งปีซึ่งเป็นโอกาสที่เหมาะที่สุดสำหรับการเปิดตัวและสร้างชื่อเสียงให้กับรองเท้าเป็นอย่างมากทาง Adidas เองจึงตั้งใจที่จะทำโอกาสครั้งนี้ให้ดีที่สุด ด้วยแผนการตลาดสุดลํ้าที่จะเปลี่ยนภาพลักษณ์จากรองเท้าเมืองหนาว กลายเป็นของคู่กายประจำการแข่งขันที่นักฟุตบอลแนวหน้าทั้งหลายต้องอยากใส่มัน การเปิดตัวรองเท้าจึงเลือกใช้ชื่อ “Samba” ตามชื่อวัฒนธรรมดนตรีการเต้นรำประจำชาติของบราซิล ซึ่งดึงดูดให้ผู้เล่นทั้งหลายเลือกใส่ตลอดการแข่งขันจนชื่อของ Samba กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในที่สุด



 

 เวลาผ่านไปหนึ่งทศวรรษในช่วงยุค 60s ตัวดีไซน์ของ Samba ก็พัฒนากลายเป็นโครงสร้างแบบ Low Top ที่เหมาะกับการใช้งานในกิจกรรมที่หลากหลายมากขึ้น ในช่วงต้นยุค 70s ความนิยมของกีฬาในร่มอย่างกีฬาฟุตซอลก็เริ่มเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในประเทศแถบยุโรป ทำให้ Samba ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากการยึดเกาะที่ยอดเยี่ยมและดีไซน์อันคล่องตัวนำมาปรับใช้กับ สนามกีฬาในร่มได้เป็นอย่างดี ในยุค 90s เราก็ได้เห็นการพัฒนาของ Samba จากสนามฟุตซอลมาสู่ลานสเก็ต โดยกลายเป็นโมเดลคลาสสิคเจ้าประจำคู่กับแผ่นสเก็ต จนกระทั่งสาวกชาวสเก็ตบอร์ดได้รับรองเท้า คู่ใจคู่ใหม่ในรุ่น Busenitz ในปี 2006 ที่ออกแบบมาเพื่อการเล่นสเก็ตโดยเฉพาะ ซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่าดีไซน์อินสไปร์มาจากโมเดล Samba 

 เนื่องจากความทนทานและสไตล์ที่ไร้กาลเวลา Adidas samba ก็ไปอยู่ในพื้นที่สำคัญของวัฒนธรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าคู่โปรดของราชาเพลงเร็กเก้อย่าง Bob Marley หรือแม้แต่ Freddie Mercury ฟรอน์เเมนเเห่งวง Queen ก็ยังใส่ Samba ขึ้นคอนเสิร์ตประวัติศาสตร์อย่าง Live Aid ในปี 1985 จนกลายเป็นภาพจำระดับตำนาน และแน่นอนว่าในภาพยนตร์ขวัญใจวัยรุ่นทั่วโลกอย่าง Trainspotting ตัวเอกอย่าง Mark Renton แสดงโดย Ewan Mcgregor ก็สวมใส่ Samba รองเท้าที่เป็นเหมือนจิตวิญญาณอิสระแห่งวัยรุ่น

 แม้แต่เพลงฟุตบอลในตำนานของวง The Bouncing Souls อย่าง Olé ( โอเล้ โอเล้ โอเล้ โอเล่ โอเหล่ ) ก็มีเนื้อเพลงที่เขียนถึงรองเท้าโมเดล Samba อยู่ด้วยในท่อน “Lace your Sambas, get on out/Off we go to kick it about”. 


 

รองเท้าที่จะขึ้นแท่น “ตำนาน” ได้ ก็ต้องมีพื้นที่ฝังรากอยู่ในวัฒนธรรมที่หลากหลาย เช่นเดียวกับ Sambaที่พัฒนาจากการเป็นรองเท้าฟุตบอลทั้งสนามใหญ่และในร่ม และโลดเเล่นต่อไปเป็นรองเท้าคู่ใจวัยโจ๋ ในวงการสเก็ตบอร์ด แต่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้คืออิทธิพลที่ยิ่งใหญ่ในวงการแฟชั่น

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Adidas Samba กลายเป็นหนึ่งในรองเท้าที่ถูกพูดถึงมากที่สุด โดยกระแสของการกลับมาที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ยิ่งเห็นได้ชัดขึ้นทุกนาทีด้วยการที่เซเลบระดับโลกมากมายต่างเลือกที่จะสวมใส่ ไม่ว่าจะเป็น Bella Hadid, Rihanna, A$AP Rocky และ สาวๆวง Blackpink แต่เพราะเหตุใดกันที่รองเท้าอายุกว่า 7 ทศวรรษนี้ยังได้รับความนิยมและกลายเป็นกระแสได้อยู่ในทุกวันนี้? 

Samba เป็นหนึ่งในโมเดลที่อยู่ในไลน์การผลิตของ Adidas มายาวนานมากที่สุด แต่ดีไซน์ของโมเดลก็ได้ผ่านการพัฒนามาถึงเวอร์ชั่นที่เรียบง่ายและคลาสสิค พอที่ทำให้ซิลูเอทกลายเป็นพื้นฐานที่ดีเยี่ยมต่อเหล่าดีไซนเนอร์ที่ร่วมงานกับ Adidas ไม่ว่าจะเป็น Jonah Hill, Jason Dill, Pharrell William หรือ แบรนด์อย่าง Kith, Clarks, JJJJound, Palace และ Pleasures แต่ที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้คือการร่วมงานกับ Wales Bonner ดีไซนเนอร์ชาวอังกฤษผู้ผสมผสานความหรูหราสไตล์ยุโรเปี่ยน เข้ากับวัฒนธรรมแบบ Afro Atlantic โดยแบรนด์ของเธอร่วมงานกับ Samba เป็นครั้งแรกในปี 2020 และหลังจากเราก็ได้พบกับอีก 6 เวอร์ชั่นของ Samba x Wales Bonner ที่ล้วนน่าจดจำและเป็นที่ต้องการ 

นอกจากจะเป็นจุดเริ่มต้นที่งดงามของตัวแบรนด์เองแล้ว Adidas samba ก็กลายเป็นดีไซน์รองเท้าที่ขายดีที่สุดอันดับสองของ Adidas ด้วยยอดขายรวม 35 ล้านคู่ทั่วโลกเป็นรองเพียงแค่โมเดล Stan Smith เท่านั้น เมื่อผสานความหลากหลายของ Collaboration ที่ประสบความสำเร็จกับเรื่องราวและประวัติศาสตร์ที่ถูกถักทอรวมกันกลายเป็นหนึ่งในโมเดลที่อมตะที่สุดในวงการ เนื่องในโอกาสการกลับมาของโมเดล Samba ในเวอร์ชั่น OG ด้วยดีไซน์คลาสสิคไร้กาลเวลา ทางร้าน Carnival ก็ได้นำมาวางจำหน่ายในรูปแบบ Raffle มาร่วมกันเป็นเจ้าของชิ้นส่วนของประวัติศาสตร์กันได้เร็วๆ นี้! 



 

#adidasOriginals #adidasthailand #samba #sambaog #carnivalbkk



By Carnivalbkk
1144 view(s)
2 years ago